อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมพาแฟนและลูกชายไปเที่ยวหาดเจ้าหลาว, จันทบุรีมา
ไม่นึกว่าชายหาดเมืองจันฯ ก็สวยไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกัน
แต่ที่ชอบก็คือน้ำทะเลช่วงนี้ ที่เรียบสนิท ปราศจากคลื่น
กิจกรรมหนึ่งที่ผมขาดไม่ได้เวลาไปเที่ยวทะเล
ก็คือการว่ายน้ำในทะเล ที่ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า open water swimming
ประเด็นที่ผมหลงไหลในการว่ายน้ำทะเล มีอยู่ดังนี้
1. ผมชอบบรรยากาศ สีสรร ของใต้น้ำ สีกับแสงมันสวยดี (จริงๆแล้วมันมีแค่ฟ้ากับเขียว แต่มันมีหลายเฉดสี)
สัมผัสของน้ำก็ทำให้รู้สึกดี
2. ความหนาแน่นของน้ำทะเล ทำให้เรารู้สึกตัวเบา ว่ายเหนื่อยน้อยกว่าในน้ำจึดเยอะ
3. ความรู้สึกเปิด อิสระ, ไม่มีลู่ว่าย ไม่มีเส้นสีดำบนพื้นสระที่กำหนดแนวว่าย
ไม่มีผนังสระที่ต้องกลับตัว, ไม่มี boundery ที่บอกว่า เฮ้ยว่ายครบ 100 metre แล้ว
มีแต่ว่ายเท่าไรก็ไปไม่ถึงไหน
4. ภาวะสมาธิที่เกิดจากความเงียบ,การทำซ้ำ และการ focus ที่การเคลื่อนไหว
อุปสรรคของการว่ายน้ำในทะเล
เท่าที่เจอมาก็มี
1. ความกลัว อันนี้เป็นผลมาจากหนังที่เกี่ยวฉลามทั้งหลาย
พอเข้าเขตที่ลึก วิตกจริตจะมาก่อนเลย
ยิ่งที่ลึกๆและน้ำใสๆ ถ้าความลึกเกิน 80 ฟุต สีของน้ำจะเป็นสีน้ำเงินเข้มเลย
ที่เคยกลัวที่สุดก็คือ ครั้งที่ไปดำน้ำแถวตรัง
โดยเรือมุ่งหน้าออกจากภูเก็ต และระหว่างทางมีการจอดเรือแวะพักทานข้าวที่ข้างเกาะแห่งหนึ่ง
ผมก็เลยได้ทีกระโดดน้ำว่ายเข้าเกาะ
แต่เนื่องจากเกาะมีลักษณะเป็นภูเขาใต้น้ำที่โผล่ยอดขึ้นมา ไม่มีหาดทราย ไม่มีทางลาดใต้น้ำ ที่ใล่จากตื้นไปลึก
ว่ายไปได้สักพัก จินตนาการก็เริ่มทำงาน
ปลาฉลามตัวใหญ่มันจะอยู่แถวนี้หรือเปล่าวะ
พยายามสงบจิตสงบใจว่ายต่อจนถึงเกาะ (ซึ่งก็น่ากลัวไปอีกแบบ เพราะเป็นหน้าผาทั้งบนบกและใต้น้ำ)
แต่อาการก็ไม่หาย ขาว่ายกลับเรือนี่เป็นเอามาก
สุดท้ายก็เลยต้องเปลี่ยนไปว่ายท่ากบ
เพื่อลดเวลาที่ต้องมองจ้องใต้น้ำ ให้น้อยที่สุด
(ไม่มองก็ไม่ได้ เพราะจินตนาการเรื่องฉลาม มันบังคับให้เราต้องเฝ้าระวังดูใต้น้ำ)
ความกลัวฉลามนี้จะไม่เกิดถ้ามีเพื่อนว่ายไปด้วย
อย่างที่เคยว่ายที่เกาะโลซิน ปัตตานี ซึ่งน้ำลึก > 80 ฟุต
ครั้งนั้นมีเพื่อนว่ายไปด้วย ว่ายอยู่ชั่วโมงกว่า ไม่รู้สึกกลัวเลย
2. แมงกระพรุน และแตนทะเล
ชื่อหลังนี้ไม่รู้ชื่อจริงๆของมัน รู้แต่ว่า มันมองไม่เห็น แต่โดนแล้วทั้งเจ็บและแสบเป็นบ้าเลย
แถมยังมีเยอะด้วย ว่ายทีไรก็โดนทุกที
ยิ่งถ้าโดนที่ปาก ก็จะเจ็บเป็นพิเศษเลย
ทะเลแถวอันดามัน นี่เป็นภาคบังคับเลย ไม่เจอก็แปลก
ส่วนแมงกระพรุนนั้นโชคดีว่ายังไม่เคยเจอแมงกระพรุนไฟ
เคยเจอแต่แมงกระพรุนธรรมดา
ซึ่งเวลาเจอก็มักจะเกิดอาการสะดุ้งตกใจ
เพราะมือหรือขามักไปโดนก่อนที่ตาจะเห็น
ที่ประทับใจที่สุด ก็เป็นที่เกาะช้าง
เพราะเคยเจอแมงกระพรุนตัวเล็กๆขนาดประมาณ 1 นิ้ว
ตัวใสมากถ้าอยุ่ในน้ำทะเลนี่จะมองไม่เห็น
เคยว่ายแหวกเข้าไปในฝูงใหญ่ของมัน
ได้อารมณ์ชวนสะดุ้งมากเลย มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้
3. กระแสน้ำ
อันนี้มักจะเจอตามเกาะ, พวกชายฝั่งธรรมดายังไม่เคยเจอ
ที่แรงสุดที่เคยเจอก็ที่เกาะแสมสาร สัตหีบ
ผมลงจากหาดทรายบนเกาะไปว่ายน้ำเล่น
ว่ายออกไปไม่กี่เมตร ก็เจอกระแสน้ำแล้ว
พัดทีตัวปลิวเลย
เวลาจะกระแสน้ำแรงๆ ท่าว่ายที่เหมาะที่สุดก็คือท่ากบ
4. อึ
ไม่ได้สะกดผิด, อันนี้เกิดขึ้นเวลาที่เราว่ายจากฝั่งไปขึ้นเรือ
ซึ่งบันใดเรือมันมักจะอยู่ท้ายเรือข้างๆห้องน้ำ
อันนี้ต้องเล็งและกะจังหวะให้ดี
ไม่งั้นจะเกิดภาวะสยองของการว่ายฝ่าเหล่าของเสียสีเหลืองได้
Monday, March 12, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
3 comments:
อันสุดท้ายนี่ขำดีครับ
5. โขดหินใกล้ชายฝั่ง อันตรายโดยเฉพาะมีคลื่นร่วมด้วย เคยว่ายน้ำขึ้นเกาะแบบคลื่นค่อนข้างแรง ตัวจะชนหินให้ได้
วันก่อนไปเสม็ดมายังคิดว่าน่าจะภายรอบเกาะได้ ...
ท่าทางจะมันส์ + หวาดเสียวเล็กๆ
ยังไม่เคยว่ายน้ำแนวนี้เลย..
poonlap:
อืมม์ใช่ เพรียงที่เกาะหินตามชายฝั่งมันคมกริบเลย
.. เสม็ด ผมก็เคยคิดนะ แต่จริงๆแล้วเกาะมันใหญ่มากเลย
ขนาดเกาะเล็กๆ ยังหลักชั่วโมงเลย
ziddik:
มันออก xtream นิดๆ
ตรงมันมีความเป็นไปได้ที่จะจมน้ำตาย
(นิดหน่อย ไม่เยอะ ถ้าว่ายน้ำเป็น
แล้วก็สงบจิตสงบใจ ไม่ panic)
Post a Comment