เห็น roofimon comment มาชวนปีนเขา แถมยังมี climbing gym ส่วนตัวที่บริษัทฯด้วย
ก็เลยนึกครึ้มใจ เขียนโฆษณาชักชวนให้เหล่าโปรแกรมเมอร์ทั้งหลายมาปีนหน้าผากันดีกว่า
ผมเลยรู้สึกจักกีฬาปีนเขา เมื่อสักราวๆปี 2537 ได้มั้ง
จำได้ว่า ไปเที่ยวหาดไร่เลย์ กระบี่ (ซึ่งสมัยนั้นติด 1 ใน 10 ของสถานที่ปีนที่ดีที่สุดในโลก)
แล้วเห็นฝรั่งปีนกันขวักไขว่ ก็เลยทดลองซื้อบริการไกด์ปีนเขาดูบ้าง
จำบรรยากาศการปีนครั้งแรกได้แม่นเลย
ความยากระดับ 5 (ง่ายสุด)
เหงื่อนี้ไหลออกมาเป็นปี๊ปเลย (ผมกลัวความสูง)
รำพึ่ง, ไกด์ + อาจารย์ ซึ่งเป็นสาวสวยผมยาวหุ่นดี ในชุดสายเดี่ยวและกางเกงขาสั้นจู๋
ก็คอยให้กำลังใจและบอกบทอยู่ข้างล่าง
left foot in a right hole, ...
(ใครที่ไปกระบี่ แล้วไปนั่งดูเขาหัดปีนกัน จะรู้จักรูปประโยคแบบนี้ดี)
กว่าจะปีนขึ้นไปถึง ก็พาลจะเป็นลม ด้วยอาการขาดน้ำ
ต่อเมื่อปีนเป็นแล้ว ถึงรู้ว่า ถ้ารู้หลัก + ไม่เกร็งและกลัวจนเกินไป
การปีนขึ้นเส้นนั้นมันจะง่ายพอๆกับการเดินเล่น
หลังจากกลับมากรุงเทพฯ ก็มีเหตุบังเอิญอีก ก็คือ
ที่ตึกที่ทำงาน(Timesquare) เกิดมีการติดตั้งหน้าผาจำลอง อันแรกของประเทศไทยขึ้นมา
(ออกแบบและทำจากฝรั่งเศษ เจ๋งมาก)
ก็เลยเกิดกลุ่มปีนหน้าผาในกรุงเทพขึ้นมา
เสียดายที่หน้าผานี้ ถูกตั้งอยู่ไม่นานนัก (แต่ก็นานพอ ให้เกิดการแข่งขันได้ 1 รายการ)
ยังจำคำชมของน้องคนหนึ่งได้
"พี่นี่ท่าปีนเท่ห์ดีนะ เวลาอยู่เตี้ยๆ แต่ทำไมพอขึ้นไปสูงๆ แล้วหมดท่าได้"
ผมก็ตอบไปสั้นๆว่า
"ผมกลัวความสูงโว้ย"
สำหรับผม แค่การขึ้นไปสูงเกิน 3 เมตร ระบบหายใจผมก็จะเริ่มผิดปกติแล้ว
ตอนนั้นแม้จะไม่ค่อยมีที่ปีน
แต่ก็เริ่มสะสมอุปกรณ์ปีนกันบ้างแล้ว
ที่ภูมิใจสุดก็คือเชือก เส้นละ 500 บาท
ที่แฟนของอาจารย์+ไกด์สาว ช่วยหักคอซื้อจากฝรั่งที่ไร่เลย์มาให้
(เพิ่มเติมสำหรับผู้ไม่สัดทัดเรื่องอุปกรณ์ปีนเขา, เชือกสำหรับปีน
มันจะมีอายุการใช้งาน ซึ่งนอกจะเกี่ยวกับเวลาแล้ว ยังเกี่ยวกับ
จำนวนครั้งที่เกิดการตกกระชากของคนปีนด้วย, ซึ่งเชือกสมัยนั้น
มันกำหนด hard fall ไว้แค่ 1 ครั้ง
การใช้เชือกเส้นที่ไม่รู้ประวัติว่าตกมากี่ครั้งแล้ว
ก็ดูจะเป็นการฆ่าตัวตาย ในสายตาของฝรั่งได้)
สมัยนั้นที่ปีนไม่ค่อยมีมากนัก
อยากปีนก็ต้องไปกระบี่
ก็เลยกลายเป็นกิจวัตรว่า
ทุกๆหยุดยาว เราจะลงไปปีนที่กระบี่กัน
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่กำลังฝึกซ้อม bouldering (ไม่ใช้เชือก และไม่ได้ปีนขึ้นสูง)
ผมกำลังเกร็งตัวปีน ข้ามไปมาระหว่างผนังด้านซ้าย กับด้านขวา
ในจังหวะที่กำลังค้างหยุดพัก ให้มือมันหายชา พร้อมกับไล่ลมหายใจที่เกร็งค้างไว้ในช่องท้อง
ผมก็ได้ยินเสียงพ่อกับลูกคุยกันมาจากข้างหลัง
"พ่อๆ เขากำลังทำอะไรอยู่"
เสียงพ่อตอบ
"เขากำลังเก็บรังนกอยู่ลูก"
Friday, May 04, 2007
Subscribe to:
Posts (Atom)