แต่การที่มัน solve transitive dependency ให้ก็นำมาซึ่งปัญหาอันใหม่ นั่นก็คือ version conflict, สมมติว่า project เรามี dependency ถึง library Foo กับ library Bar. ทั้ง Foo และ Bar บังเอิญมี dependency ซึ่ง Library Z เหมือนๆกัน แต่ดันเป็นคนละ version. เมื่อเรา build project, เราก็จะมี library Z เข้ามาใน class path เราทั้งสอง version, ทำให้เกิด error พวก missing method หรือ missing class ได้
(Note: ที่ผมเจอ ผมเจอปัญหานี้ตอน mvn eclipse:eclipse, แต่จากการทดสอบด้วยคำสั่ง mvn dependency:resolve ปรากฎว่า มันได้ผลลัพท์ไม่เหมือนกัน เจ้า dependency:resolve ดูเหมือนจะจัดการได้ถูกต้อง)
วิธีแก้ไขก็คือ การระบุ exclusion ลงใน pom.xml ของ maven
จากของเดิม
<dependency>
<groupId>my.pphetra</groupId>
<artifactId>foo</artifactId>
<version>1.0</version>
</dependency>
<dependency>
<groupId>my.pphetra</groupId>
<artifactId>bar</artifactId>
<version>1.0</version>
</dependency>
ไปเป็น
<dependency>
<groupId>my.pphetra</groupId>
<artifactId>foo</artifactId>
<version>1.0</version>
<exclusions>
<exclusion>
<groupId>test</groupId>
<artifactId>Z</artifactId>
</exclusion>
</exclusions>
</dependency>
<dependency>
<groupId>my.pphetra</groupId>
<artifactId>bar</artifactId>
<version>1.0</version>
</dependency>
ทางแก้ดูแล้วง่ายดาย แต่จริงๆแล้ว มันไปยุ่งตอนที่หาว่า library ตัวไหนที่เราควรจะไปใส่ excludes ให้มัน
วิธีการก็คือ ตอนที่สั่ง mvn command (กรณีของผมก็คือ eclipse:eclipse) ให้ใส่ -X ลงไปด้วย
จากนั้นก็นั่งไล่หาว่า เจ้าตัวไหนคือตัวปัญหา (คำเตือน วิธีนี้มีผลข้างเคียงก็คือ ทำให้เกิดอาการง่วงนอน)