Friday, February 02, 2007

ผ่านไปอีกหนึ่ง

เมื่อวันก่อน Application ที่เขียนโดยใช้ opensource ล้วนๆ
(เดิมก็ใช้ opensource แหล่ะครับ, แต่คราวนี้ไม่ต้องใช้ db2, websphere)
ได้ run production กับ load ที่มากสุดของช่วงปีนี้แล้ว (31 มกราคม)
วันนั้นมี transaction ใบเสร็จป้อนเข้ามา หมื่นกว่าใบ
ผ่านไปด้วยความสบายใจ

ลองดูว่า project นี้ใช้ opensource อะไรบ้าง
  • ในส่วนของ browser บังคับให้ใช้ Firefox
    (เขียนให้ใช้ได้ทั้ง IE และ Firefox, แต่พอเกิดปัญหา ก็จะใล่ให้ไปลง firefox ก่อน
    แล้วค่อยคุยกัน)
  • PDF Viewer ใช้ FoxIt
    ตัวเล็กดี
  • Server ใช้ OpenSUSE
  • Database ใช้ Ingres
  • App Server ใช้ Tomcat 5.5
    ต่อเป็น cluster 2 server
  • Web Server ใช้ Apache 2.x
  • Single Sign On ใช้ CAS
  • ORM ใช้ Hibernate 3.2
  • Container ใช้ Spring Framework 2.0
  • Presentation Layer ใช้ Tapestry 4.0.2 ผสมกับ Spring
  • Report ใช้ JasperReport
  • Javascript Framework ใช้ Dojo
  • build tool ใช้ maven 2
  • continuous build ใช้ CruiseControl
  • Unit Testing ใช้ TestNG กับ EasyMock
  • Integrated Test ใช้ Selenium + Ruby

ยังมีตัวเล็กตัวน้อยอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่สำคัญเท่าไร

Related link from Roti

10 comments:

rachjuly said...

ใช้อะไรเป็น IDE เหรอครับ

PPhetra said...

IDE -> Eclipse
Version control -> Subversion

veer said...

ผมพึ่งรู้ว่า Ingres เป็น GPL แล้ว

rachjuly said...

Project ที่ผมทำอยู่น่ะครับ
Server->Debian 3.1 sarge
Database->PostgresSQL and DB2(AS/400 query อย่างเดียว)
IDE->Eclipse+Exadel
Version control->VSS (พยายามจะเปลี่ยนเป็น subvision แต่ยังไม่สำเร็จ)
Web Server->Tomcat 5.5
ORM->Hibernate, Annotation
Presentation Layer->JSF,MyFaces (รู้สึกคิดผิดนิดๆ)
Report->iReport, JasperReport (รู้สึกว่า พระเจ้าจอร์ช มันยอดมาก)
Browser->IE

อยากทำเต็มระบบกว่านี้น่ะครับ ตอนนี้เป็นแค่การ support function ของ MRP package ที่ขาดไป

PPhetra said...

โอ้ สนุกพอกันเลย

> Presentation Layer->JSF,MyFaces (รู้สึกคิดผิดนิดๆ)
: )
ของผมยังรู้สึกคิดถูกที่เลือก tapestry อยู่
เพราะเวลามอง JSP code แล้วมันตาลาย

springframework ก็ช่วยได้เยอะนะครับ

Anonymous said...

โอ้ เขียนจาวามันต้องขนาดนี้เชียว

nontster said...

ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าแต่วันนี้พี่ไปสวนรถไฟป่าว เจอพี่แต่ทักไม่ทัน วิ่งหนีผมไปซะแล้ว

PPhetra said...

nonster: ใช่ๆวันนั้นผมไปสวนรถไฟ
เอ้ แต่วันนั้นไม่ได้วิ่งนี่น่า
คุณลูกชาย พันแข้งพันขาตลอด

ziddik::zdk said...

>sugree said...
> โอ้ เขียนจาวามันต้องขนาดนี้เชียว

มาเป็นขบวนอะไรซักอย่าง...น่ากลัวดีแท้...
(- -')

PPhetra said...

น่าสนใจนะ ว่าทำไมมันต้องเยอะอย่างนี้
ทุกอย่างมันเริ่มจาก

มีปัญหา a เอา x มาช่วยสิครับ
มีปัญหา b เอา y มาช่วยสิครับ
มีปัญหา c เอา z มาช่วยสิครับ
อยากได้ feature h เอา m มาช่วยสิ
...

ปัจจุบัน ปัญหา a,b,c ก็เลยไม่เกิดแล้ว
feature ก็ครอบคลุมหมด
แต่มี learning curve x,y,z,m,... เพียบเลย