ของ พลเอกบัญชร ชวาลศิลป์ ในมติชนสุดสัปดาห์
ที่เขียนเล่ากรณี การจราจลที่เกิดจากการประท้วงเรื่องโรงงานแทนทาลัมที่ภูเก็ต
แล้วเหนื่อยใจ
ก็พอรู้นะว่า กระทรวงนี้ คาดหวังอะไรไม่ได้
แต่ไม่นึกว่า มันจะแย่ขนาดนี้
Note: เรื่องนี้เกิดมานานแล้ว จำปีไม่ได้แล้ว
แต่เชื่อว่า ปัจจุบันก็มหาดไทยก็คงไม่หนีไปไหนไกลหรอก
ลองอ่าน quote นี้ดู
นายพิศาล มูลศาสตรสาทร ท่านสรุปว่า
เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นที่ภูเก็ตครั้งนี้มาจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย 2 กลุ่มด้วยกัน
ผู้ก่อการร้ายพวกแรกคือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
...
ในคืนก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ผกค. จำนวนหนึ่งได้เคลื่อนย้าย
เข้ามายังตัวจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นแกนนำในการปฏิบัติการ
โดยแทรกซึมเข้ามาด้วยรถบรรทุกสิบล้อจำนวนหนึ่ง
เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ แล้วโดดลงข้างทางบริเวณที่เป็นสวนยาง
ค่อยๆเดินเท้าแทรกซึมไปรวมตัวกันที่วัดฉลอง แล้วเข้าปฏิบัติการจนเป็นผลสำเร็จ
สามารถเผาโรงแรมและโรงงานได้สำเร็จตามแผน
...
ผม[พลเอกบัญชร]ฟังคำบรรยายสรุปของปลัดมหาดไทยด้วยความแปลกใจ
และขนลุก แต่การรายงานข่าวของท่านยังไม่จบลงเพียงแค่นั้น
นอกจาก ผกค. แล้ว ... มีพวก ขจก. ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหว
อยู่เฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น
...
ก่อนเกิดเหตุการณ์จราจลไม่กี่วัน เด็กหนุ่ม ขจก. เหล่านี้
ได้กระโดดร่มลงยังบริเวณพื้นที่จังหวัดพังงา
แล้วเดินทางแทรกซึมเข้ามาร่วมการก่อจราจล
พลเอกบัญชร เขาเขียนให้ความเห็นว่า
นี่คือความเชื่อเป็นตุเป็นตะ จนกล้านำเสนอในที่ประชุมระดับชาติของปลัด
ซึ่งน่าจะสะท้อนความเป็นจริงของหน่วยงานที่มีความสำคัญทางด้าน
ความมั่นคงของประเทศหน่วยนี้ในขณะนั้น
น่าสนใจมาก
plot เรื่องเน่าสนิท เหมือนละครก่อน/หลังข่าวเลย
No comments:
Post a Comment