ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสทั้งสวรรค์ และ นรก คละเคล้ากันไป
เส้นทางที่ขี่คราวนี้ อยู่ในจังหวัดน่านจังหวัดเดียว
ด้วยความไม่ฟิตของร่างกาย
(ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงของหัวใจ หรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ)
การขี่จักรยานขึ้นเขายาวๆ บวกกับ แสงแดดร้องเปรี้ยงช่วงบ่าย
(แดดในที่สูงมันร้อนมากเลย)
เป็นการตกนรกแบบสุดทนจริงๆ
การควบคุมจิตใจในช่วงนั้น
ใช้หลักยึดอยู่ 2 ประการ คือ
- ตั้งเป้าหมายระยะสั้น
ในใจจะนึก "ปั่นอีก 10 ครั้งแล้วค่อยพัก"
พอครบ 10 ครั้ง ก็เริ่มตั้งเป้าใหม่, ขออีก 10 ครั้งน่า
ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงยอดเขา - ควบคุมลมหายใจ และกำหนดจิตให้เป็นสมาธิ
ตอนนี้เราเหนื่อยมากๆ การใช้แรงของเรา มักจะสะเปะสะปะ
การควบคุมลมหายใจ และทำสมาธิกับลมหายใจเข้าออก
จะทำให้เราควบคุมการเคลื่อนไหวและการออกแรงได้ดีขึ้น
ทำให้ไม่มีแรงที่เสียไปอย่างเปล่าๆ (เช่น การเกร็งกล้ามเนื้อที่ไม่มีประโยชน์ต่อการปั่น หรือการออกแรงมากเกินไป)
นอกจากนั้นการมีสมาธิ ยังช่วยไม่ให้จิตของเราไปหมกหมุ่นกับอาการเหนื่อย จนเกินไป
ส่วนสวรรค์ จะมาในช่วงขาลงจากยอดเขา
ลมที่พัดเข้าใส่หน้า
ความเร็วที่พุ่งลงไป
ความปิติ ที่เกิดจากการผ่านอุปสรรคมาได้
อันนี้แหล่ะช่วงเวลาสั้นๆที่สัมผัสสวรรค์
(แน่นอน เมื่อลงไปสุดทางแล้ว ก็ต้องเจอนรกต่อ)
Note:
- ช่วงเวลาที่สุข มักจะน้อยกว่า ช่วงเวลาที่ทุกข์ เสมอ
- พื้นที่ 75% ของจังหวัดน่าน เป็นภูเขา
No comments:
Post a Comment