Sunday, April 02, 2006

ไชยันต์ ไชยพร


คำแถลง รศ. ดร. ไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผม นายไชยันต์ ไชยพร อายุ ๔๗ ปี รับราชการเป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯมา ๑๔ ปี มีความยึดมั่นและพร่ำสอนให้ลูกศิษย์ได้เข้าใจและหวงแหนช่วยกันรักษาสิทธิเสรีภาพของตนในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอดว่า เป็นระบอบที่ดียอมให้รัฐมีอำนาจจำกัดเท่าที่จำเป็น ส่วนการได้อำนาจและใช้อำนาจของผู้ปกครองนั้นก็จะถูกตรวจสอบควบคุมโดยสาธารณะอยู่ตลอดเวลา
มาบัดนี้ ระบอบทักษิณได้ยักยอกและยึดครองประชาธิปไตยไปโดยสิ้นเชิงแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการบังคับให้ลงมติรับรองผู้นำเผด็จการเท่านั้น การยุบสภาที่เกิดขึ้นทำไปเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียวที่ไม่ยอมรับการตรวจสอบปัญหาคอรัปชั่นและผลประโยชน์ทับซ้อนที่ได้กระทำไปด้วยความโลภโมโทสัน

ทุกวันนี้ ระบอบทักษิณยึดอำนาจบริหารไปครองอย่างเข้มแข็งยิ่งไม่ต่างจากระบบประธานาธิบดี แต่ระบบประธานาธิบดีนั้นก็ยังดีที่ฝ่ายบริหารยุบสภาไม่ได้ และมีกลไกตรวจสอบของสภา กับสื่อมวลชนอิสระที่เข้มแข็งคอยทัดทานอำนาจอยู่ การยินยอมให้ระบอบทักษิณยุบสภาหนีการตรวจสอบได้ ผนวกกับการแทรกแซงครอบงำสื่อมวลชนอย่างรุนแรงเช่นปัจจุบัน ย่อมเป็นการยอมให้เผด็จการจำแลงยึดครองประชาธิปไตย ยักยอกรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ที่ผมไม่อาจยอมรับได้

ในสถานการณ์เผด็จการจำแลงเช่นนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้เล็งเห็น และให้สิทธิพื้นฐานแก่ชนชาวไทยไว้แล้ว ในมาตรา ๖๕ ว่า หากมีการแสวงอำนาจรัฐโดยผิดวิถีทางของรัฐธรรมนูญพาประเทศเข้าสู่เผด็จการเมื่อใด คนไทยย่อมมีสิทธิต่อต้านโดยสงบได้ ไม่เป็นความผิด
เมื่อประชาธิปไตยไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อรัฐไม่เป็นรัฐของส่วนรวม การเลือกตั้งไม่ใช่การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งไม่สามารถสร้างความมั่นใจและไว้วางใจ ผมจึงขอใช้สิทธิต่อต้านตามมาตรา ๖๕ “บุคคลย่อมมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธีซึ่งการกระทำใดๆที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้”

โดยขอปฏิเสธหน้าที่พลเมืองที่กำหนดไว้ในกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อรักษาสิทธิเสรีภาพของผมโดยฉีกบัตรเลือกตั้งของผมเองในวันนี้ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นหนทางเดียวที่รักษาสิทธิของผมไว้ไม่ให้ถูกบิดเบือนไปเป็นอื่นได้

โดยขอฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 108 “ผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหายหรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดห้าปี”
คดีนี้ผมจะเรียนต่อเจ้าพนักงานว่า ผมขอสู้คดีในชั้นศาล โดยจะไม่ยอมรับการเปรียบเทียบปรับใดๆ โดยจะขอต่อสู้คดีนำสืบให้ศาลเห็นถึงการใช้อำนาจยุบสภาโดยบิดเบือนจากวิถีทางในรัฐธรรมนูญเป็นลำดับไป ทั้งหลักฐานการถือประโยชน์ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรี หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ว่าด้วยอำนาจยุบสภาของรัฐบาล กระบวนการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสเป็นธรรม รวมทั้งขบวนการปิดกันข่าวสารทั้งมวล เพื่อประมวลให้ศาลเห็นได้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นวิธีการแสวงหาอำนาจ รักษาอำนาจของเผด็จการจำแลงอย่างชัดเจน การต่อสู้คดีของผมในครั้งนี้จะมี ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับเป็นทนายความ มีอดีตสมาชิกวุฒิสภา แก้วสรร อติโพธิ และเพื่อนคณาจารย์ร่วมคณะรับเป็นที่ปรึกษาคดี

ขอเรียนย้ำว่า ผมไม่มีความเจ็บป่วยทางจิต ไม่มีความหลงโลภ หรือโกรธเข้าครอบงำ ผมเพียงแต่ไม่ยอมให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและบริวาร พรากเสรีภาพที่ติดตัวผมและเป็นของผมมาแต่กำเนิดไป เท่านั้นเองจริงๆ

นายไชยันต์ ไชยพร
๒ เมษายน ๒๕๔๙

Related link from Roti

2 comments:

bact' said...

หาในเน็ตไม่เจออ่ะ T-T

Anonymous said...

คนเราไม่ยอมรับอะไรกันง่ายจริง ๆ ชาติไทยเป็นพุทธแท้ ๆ ยังมีปัญาหากันได้อยู่ทุกวัน "ยอมหักได้แต่ไม่ยอมงอ" เวรกรรมประเทศไทย อนาคตคนไทยจะพึ่งพาใครได้หากคนในชาติยังตีกันเอง

ยุทธ