Wednesday, May 16, 2007

งัวเงีย

เมื่อคืนขณะกำลังหลับลึก ก็ได้ยินเสียงหวานดังแว่วๆมา "พลวัฒน์คะ"
ก่อนที่จะเริ่มเคลิ้มไปตามเสียงหวานๆ ก็ได้ยินเสียงที่ตามมาว่า "ชงนมให้ลูกหน่อยค่ะ"
เท่านั้นแหล่ะ, กล้ามเนื้อท้องก็ทำงาน ดีดตัวขึ้นมานั่งโดยอัตโนมัติ

ขั้นแรกสุดในการชงนม ก็คือต้องหาขวดนมให้ได้ก่อน
เนื่องจากอุปสรรคเรื่องความมืด + สายตายังไม่ปรับ focus + สมองที่ยังงัวเงียอยู่
algorithm ที่ดีที่สุดในการหาขวดและจุกนมในความมืด ก็คือ brutal force
หลังจากคุ้ยและคลำกองขวดนมอยู่นานมาก (นานในความรู้สึก เพราะมันอยากกลับนอนเต็มที่แล้ว) ก็ได้ขวดนมขนาดที่เหมาะสำหรับเด็กอ่อนออกมา
ชั้นที่สอง ก็คือ ตวงน้ำให้ได้ 2 Oz. อันนี้ยากขึ้นอีก
เพราะว่า ต้องกัดฟันบังคับให้สมองส่วนที่เกี่ยวกับ "มิติ" มันยอมทำงาน
เมื่อได้ขวดนมพร้อมน้ำแล้ว ก็จัดการตักนมผงขึ้นมาหนึ่งช้อน
(ไม่ยากแล้ว เพราะ function "มิติ" มันทำงานแล้ว)
ผสมเข้าด้วยกันแล้วก็เขย่าๆ
ส่งต่อให้ภรรยา จากนั้นก็กระโดดกลับขึ้นเตียง
(หลังจากที่เขียนเรื่องนี้แล้ว คำถามที่ตามมาอีก ก็คือ
เอ๊ะ แล้วทำไม แฟนเราถึงไม่ชงนมเองหว่า)

ก่อนหลับไป ก็นึกว่า
เมื่อรู้แล้วว่าต้องชงนม
แล้วทำไมก่อนนอนตูไม่หยิบขวดนม + จุกนม
ใส่น้ำ,วางเตรียมไว้ให้เรียบร้อยก่อน
จะได้ไม่ต้องมาทุกข์ทรมานอย่างนี้วะ

ปล. เรื่องนี้สามารถเปลี่ยนบริบท จากชงนม
ไปเป็น software development ได้โดยไม่เสียความหมาย

Related link from Roti

Monday, May 14, 2007

น้องใหม่มาแล้ว

เหนื่อยสุดๆเลยช่วงอาทิตย์นี้ (และคงจะอีก 12 อาทิตย์ข้างหน้า)
ลูกชายคนเล็กเข้าบ้านวันแรก ก็เล่นเอาพ่อกับแม่บักโกรกไปตามๆกัน

ลาคลอดครั้งนี้ (ฝ่ายชายก็ลาคลอดได้ คราวก่อนลาไปเก้าเดือน, คราวนี้คงลาแค่ 3 เดือน)
ผมรับหน้าที่หลักคือดูแลคนโต
จับกินข้าว,อาบน้ำ, ล้างก้น, เล่นทุกรูปแบบ, เล่านิทาน, พาไปเที่ยว
ส่วนลูกคนเล็ก ผมรับหน้าที่ อาบน้ำ กับ หมั่นตื่นมาดูในช่วงตีสองเป็นต้นไป

Update; เมื่อคืนลูกคนเล็กมันรับน้องพ่ออีกแล้ว
ต้องอุ้มเดินหกทุ่มถึงตีหนึ่ง
แล้วก็ตีห้าถึงแปดโมงเช้า
ส่วนตีสอง เป็นเวรของลูกคนโต ตื่นขึ้นมาอิจฉาน้อง
ต้องนอนปลอบกันเกือบครึ่งชั่วโมง

Related link from Roti